ภาคผนวก 3
คำภาษากรีกที่เกี่ยวข้องกับ “บัพติศมา”
ภาคผนวกนี้รวบรวมไว้สำหรับผู้ที่ต้องการจะศึกษาคำที่เกี่ยวกับบัพติศมา การบัพติศมา และคำอื่นๆที่มาจากรากศัพท์เดียวกันในพระคัมภีร์ใหม่ ข้อมูลได้ถูกจัดเรียงไว้ในตารางเพื่อให้ผู้อ่านสามารถเห็นการใช้พระคัมภีร์และความหมายของคำภาษากรีกได้อย่างรวดเร็ว ในพระคัมภีร์ใหม่จะมีคำซึ่งมาจากรากศัพท์เดียวกันหกคำที่เกี่ยวข้องกับบัพติศมา:
l คำกริยาว่า baptizō มีปรากฏ 77 ครั้ง มันแปลว่า จุ่ม, จุ่มตัว; การชำระล้าง หรือทำให้บริสุทธิ์ด้วยการล้าง; การประกอบพิธีบัพติศมา การให้บัพติศมา (กิจการ 22:16)
l คำนามว่า baptisma มีปรากฏ 19 ครั้ง มันหมายถึงการจุ่ม; บัพติศมา พิธีบัพติศมา (มัทธิว 3:7; โรม 6:4)
l คำนามว่า baptistēs มีปรากฏ 12 ครั้ง และมักจะหมายถึงยอห์นผู้ให้บัพติศมาเสมอ (หรือ “ยอห์นที่เป็นผู้ให้บัพติศมา”)[1] มันหมายถึง ผู้ที่บัพติศมาให้ ผู้ให้บัพติศมา (มัทธิว 3:1)
l คำนามว่า baptismos มีปรากฏ 4 ครั้ง มันหมายถึง การที่กำลังจุ่ม หรือจุ่มตัวลงไปในน้ำ: การบัพติศมา (โคโลสี 2:12; มาระโก 7:4; ฮีบรู 6:2)
l กริยาว่า baptō มีปรากฏ 4 ครั้ง มันหมายถึง การจุ่ม (ยอห์น 13:26)
l คำกริยาว่า embaptō มีปรากฏสองครั้ง มันหมายถึง จุ่มลงใน (มาระโก 14:20)
จำนวนครั้งที่ปรากฏนั้นสำหรับพระคัมภีร์ใหม่ และมาจากพระคัมภีร์ภาษากรีกฉบับ NA28[2] คำนิยามทั้งหมดเอามาจาก พจนานุกรมวิเคราะห์ภาษากรีกฉบับใหม่ โดย ดับบลิว เจ เพิร์ชแบดเจอร์[3]
ในตารางต่อไปนี้จะแสดงให้เห็นรายการที่ปรากฏทั้งหมดของหกคำที่มาจากรากศัพท์เดียวกัน โดยเริ่มจากรายการที่มีน้อยที่สุด ข้อทั้งหมดได้ยกมาทั้งข้อจากฉบับ ESV คำภาษาอังกฤษที่เป็นตัวหนาจะตรงกับคำภาษากรีกภายใต้คำที่มีความหมายเหมือนกัน เครื่องหมายดอกจัน (*) ถัดจากหมายเลขข้อจะชี้ให้เห็นว่า คำภาษากรีกมีปรากฏสองครั้งในข้อนั้น
embaptō (มีปรากฏ 2 ครั้งใน 2 ข้อ) |
|
2. มาระโก 14:20 พระเยซูตรัสตอบพวกเขาว่า “เป็นคนหนึ่งในสาวกสิบสองคนนี้ เป็นคนที่หยิบอาหารจุ่มในชามเดียวกับเรา” |
baptō (มีปรากฏ 4 ครั้งใน 3 ข้อ) |
|
2. ยอห์น 13:26* พระเยซูตรัสตอบว่า “คือคนที่เราจะหยิบขนมปังชิ้นนี้จุ่มแล้วส่งให้” แล้วทรงหยิบขนมปังชิ้นหนึ่งจุ่มและส่งให้แก่ยูดาสบุตรของซีโมนอิสคาริโอท |
3. วิวรณ์ 19:13 พระองค์ทรงฉลองพระองค์ที่ได้จุ่มในเลือด และพระนามที่เรียกพระองค์นั้นคือ “พระวาทะของพระเจ้า” |
baptimos (มีปรากฏ 4 ครั้งใน 4 ข้อ) |
|
2. โคโลสี 2:12 พวกท่านถูกฝังร่วมกับพระองค์ในการบัพติศมา ที่พระเจ้าทรงให้ท่านเป็นขึ้นมาร่วมกับพระองค์ด้วย โดยความเชื่อในพลานุภาพของพระเจ้าผู้ทรงทำให้พระองค์เป็นขึ้นจากตาย |
3. ฮีบรู 6:2 และคำสอนเรื่องพิธีล้างชำระต่างๆ การวางมือ การเป็นขึ้นจากความตาย และการลงโทษชั่วนิรันดร์ |
4. ฮีบรู 9:10 เพราะเป็นเรื่องอาหารและเครื่องดื่มและพิธีชำระล้างต่างๆ เท่านั้น เป็นเพียงกฎเกณฑ์ต่างๆ ทางกายเกี่ยวกับชีวิตภายนอกที่ได้บัญญัติไว้ จนกว่าจะถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลงใหม่ |
baptistēs (มีปรากฏ 12 ครั้งใน 12 ข้อ) |
|
2. มัทธิว 11:11 เราบอกความจริงกับพวกท่านว่า ในบรรดาคนซึ่งเกิดจากผู้หญิงนั้น ไม่มีใครยิ่งใหญ่กว่ายอห์นผู้ให้บัพติศมา แต่ว่าผู้ที่เล็กน้อยที่สุดในแผ่นดินสวรรค์ก็ยังยิ่งใหญ่กว่ายอห์นอีก |
3. มัทธิว 11:12 ตั้งแต่สมัยยอห์นผู้ให้บัพติศมาถึงทุกวันนี้ แผ่นดินสวรรค์ก็ถูกโจมตีอย่างรุนแรง และพวกที่รุนแรงพยายามชิงเอาให้ได้ |
4. มัทธิว 14:2 แล้วจึงกล่าวกับบริวารว่า “คนนี้แหละคือยอห์นผู้ให้บัพติศมา ท่านได้เป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว เพราะเหตุนี้จึงทำให้ท่านมีฤทธิ์อำนาจทำการอัศจรรย์ต่างๆได้” |
5. มัทธิว 14:8 นางก็ทูลตามที่มารดาชี้แนะว่า “ขอศีรษะยอห์นผู้ให้บัพติศมา ใส่ถาดมาให้หม่อมฉันที่นี่เถิด” |
6. มัทธิว 16:14 และเขาทั้งหลายทูลว่า “บางคนว่าเป็นยอห์นผู้ให้บัพติศมา แต่บางคนก็ว่าเป็นเอลียาห์ ส่วนคนอื่นๆว่าเป็นเยเรมีย์ หรือเป็นคนหนึ่งในพวกผู้เผยพระวจนะ” |
7. มัทธิว 17:13 แล้วพวกสาวกจึงเข้าใจว่า พระองค์ตรัสกับพวกเขาถึงยอห์นผู้ให้บัพติศมา |
8. มาระโก 6:25 แล้วนางจึงรีบเข้าไปเฝ้ากษัตริย์ทันทีทูลว่า “หม่อมฉันขอศีรษะของยอห์นผู้ให้บัพติศมา ใส่ถาดมาให้หม่อมฉันเดี๋ยวนี้เถิด” |
9. มาระโก 8:28 แล้วพวกเขาทูลตอบพระองค์ว่า “เป็นยอห์นผู้ให้บัพติศมา แต่บางคนว่าเป็นเอลียาห์ บางคนก็ว่าเป็นคนหนึ่งในพวกผู้เผยพระวจนะ” |
10. ลูกา 7:20 และเมื่อสองคนนั้นไปหาพระองค์ พวกเขาก็ทูลว่า “ยอห์นผู้ให้บัพติศมาได้ส่งข้าพเจ้ามาหาท่านเพื่อถามว่า ‘ท่านเป็นคนที่จะมานั้นหรือ? หรือว่าเราจะต้องคอยอีกคนหนึ่ง?’” |
11. ลูกา 7:33 เพราะว่ายอห์นผู้ให้บัพติศมา ไม่ได้กินขนมปังหรือดื่มเหล้าองุ่น พวกท่านก็ว่า ‘เขามีผีเข้าสิง’ |
12. ลูกา 9:19 แล้วพวกเขาทูลตอบว่า “เป็นยอห์นผู้ให้บัพติศมา แต่บางคนว่าเป็นเอลียาห์ ส่วนคนอื่นๆ ก็ว่าเป็นหนึ่งในพวกผู้เผยพระวจนะโบราณที่กลับเป็นขึ้นมา” |
baptisma (มีปรากฏ 19 ครั้งใน 19 ข้อ) |
|
2. มัทธิว 21:25 บัพติศมาของยอห์นนั้นมาจากไหน? มาจากสวรรค์หรือมาจากมนุษย์?” แล้วพวกเขาจึงปรึกษากันว่า “ถ้าเราว่า ‘มาจากสวรรค์’ เขาก็จะถามเราว่า ‘แล้วทำไมถึงไม่เชื่อยอห์น?’ |
3. มาระโก 1:4 ยอห์นปรากฏตัวขึ้น ให้บัพติศมาในถิ่นทุรกันดาร และประกาศถึงบัพติศมาที่แสดงการกลับใจใหม่ เพื่อรับการยกโทษความผิดบาป |
4. มาระโก 10:38 พระเยซูจึงตรัสกับพวกเขาว่า “พวกท่านไม่รู้ว่าพวกท่านกำลังขออะไร ถ้วยที่เราดื่มพวกท่านดื่มได้หรือ? และบัพติศมาที่เรารับ พวกท่านรับบัพติศมานี้ได้หรือ?” |
5. มาระโก 10:39 พวกเขาทูลตอบว่า “พวกข้าพระองค์ทำได้” พระเยซูจึงตรัสกับพวกเขาว่า “ถ้วยที่เราดื่มนั้นพวกท่านจะได้ดื่ม และบัพติศมาที่เรารับ เป็นบัพติศมาที่พวกท่านจะได้รับ”
|
6. มาระโก 11:30 พวกเขาปรึกษากันว่า “บัพติศมาของยอห์นมาจากสวรรค์หรือมาจากมนุษย์? จงตอบเราเถิด” |
7. ลูกา 3:3 และเขาไปทั่วแถบแม่น้ำจอร์แดน ประกาศเรื่องบัพติศมาที่สำแดงการกลับใจใหม่เพื่อรับการยกโทษความผิดบาป |
8. ลูกา 7:29 ทุกคนรวมทั้งคนเก็บภาษี เมื่อได้ยินก็ยอมรับว่าพระเจ้าทรงยุติธรรม โดยที่พวกเขาได้รับบัพติศมาจากยอห์นแล้ว |
9. ลูกา 12:50 เราจะต้องรับบัพติศมาอย่างหนึ่ง เราเป็นทุกข์มากจนกว่ามันจะสำเร็จ! |
10. ลูกา 20:4 บัพติศมาของยอห์นนั้นมาจากสวรรค์หรือมาจากมนุษย์?” |
11. กิจการ 1:22 “ตั้งแต่บัพติศมาของยอห์น จนถึงวันที่พระองค์ถูกรับขึ้นไปจากเรา หนึ่งในคนเหล่านี้จะต้องเป็นพยานร่วมกับเราเกี่ยวกับการคืนพระชนม์ของพระองค์” |
12. กิจการ 10:37 พวกท่านเองก็รู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วแคว้นยูเดีย โดยเริ่มต้นที่แคว้นกาลิลีหลังจากยอห์นประกาศเรื่องบัพติศมานั้น |
13. กิจการ 13:24 ก่อนพระเยซูเสด็จมา ยอห์นก็ได้ประกาศถึงบัพติศมาที่แสดงถึงการกลับใจใหม่ต่อประชาชนอิสราเอลทั้งหมดแล้ว |
14. กิจการ 18:25 เขาได้รับการอบรมในทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า และมีใจร้อนร้นในพระวิญญาณ เขากล่าวสั่งสอนเรื่องพระเยซูอย่างถูกต้อง แม้ว่าเขาจะรู้จักแต่เพียงบัพติศมาของยอห์น |
15. กิจการ 19:3 เปาโลจึงถามว่า “ถ้าอย่างนั้นท่านทั้งหลายได้รับบัพติศมาอะไร?” พวกเขาตอบว่า “บัพติศมาของยอห์น” |
16. กิจการ 19:4 เปาโลจึงกล่าวว่า “ยอห์นให้บัพติศมาที่แสดงการกลับใจใหม่ และบอกคนทั้งปวงให้เชื่อในพระองค์ผู้จะเสด็จมาภายหลังคือพระเยซู” |
17. โรม 6:4 ฉะนั้น เราจึงถูกฝังไว้กับพระองค์ โดยการรับบัพติศมาเข้าในความตาย เพื่อว่าเมื่อพระคริสต์เป็นขึ้นจากตายโดยพระสิริของพระบิดาแล้ว เราเองก็จะได้ดำเนินตามชีวิตใหม่ด้วยเหมือนกัน |
18. เอเฟซัส 4:5 มีองค์พระผู้เป็นเจ้าเดียว ความเชื่อเดียว บัพติศมาเดียว |
19. 1 เปโตร 3:21 น้ำนี้เล็งถึงบัพติศมาซึ่งช่วยพวกท่านให้รอดเช่นกัน ไม่ใช่เป็นการชำระมลทินทางกาย แต่เป็นการวิงวอนพระเจ้าเพื่อจะมีจิตสำนึกที่ดี โดยการเป็นขึ้นจากความตายของพระเยซูคริสต์ |
baptizō (มีปรากฏ 77 ครั้งใน 64 ข้อ) |
|
2. มัทธิว 3:11* ข้าพเจ้าให้พวกท่านรับบัพติศมาด้วยน้ำ แสดงถึงกลับใจใหม่ แต่พระองค์ผู้จะเสด็จมาภายหลังข้าพเจ้า ทรงยิ่งใหญ่กว่าข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าไม่คู่ควรแม้แต่จะถือฉลองพระบาทของพระองค์ พระองค์จะทรงให้พวกท่านรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยไฟ |
3. มัทธิว 3:13 แล้วพระเยซูก็เสด็จจากแคว้นกาลิลี มาหายอห์นที่แม่น้ำจอร์แดนเพื่อทรงรับบัพติศมาจากท่าน |
4. มัทธิว 3:14 ยอห์นได้ทูลทัดทานพระองค์ว่า “ข้าพระองค์ต่างหากที่ต้องขอรับบัพติศมาจากพระองค์ ควรหรือที่พระองค์เสด็จมาหาข้าพระองค์?” |
5. มัทธิว 3:16 และเมื่อพระเยซูทรงรับบัพติศมาแล้วก็เสด็จขึ้นจากน้ำ และในทันใดนั้นฟ้าก็แหวกออก และพระองค์ทรงเห็นพระวิญญาณของพระเจ้าเสด็จลงมาดุจนกพิราบสถิตบนพระองค์ |
6. มัทธิว 28:19 เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงออกไปและสั่งสอนชนทุกชาติให้เป็นสาวกของเรา จงบัพติศมาพวกเขาในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ |
7. มาระโก 1:4 ยอห์นปรากฏตัวขึ้น ให้บัพติศมาในถิ่นทุรกันดาร และประกาศถึงบัพติศมาที่แสดงการกลับใจ ใหม่ เพื่อรับการยกโทษความผิดบาป |
8. มาระโก 1:5 คนทั่วแคว้นยูเดียกับคนทั่วกรุงเยรูซาเล็มกำลังพากันไปหายอห์น สารภาพความผิดบาปของพวกเขาและได้รับบัพติศมาจากท่านในแม่น้ำจอร์แดน |
9. มาระโก 1:8* ข้าพเจ้าได้ให้พวกท่านรับบัพติศมาด้วยน้ำ แต่พระองค์จะทรงให้พวกท่านรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์” |
10. มาระโก 1:9 ในเวลานั้นพระเยซูเสด็จมาจากเมืองนาซาเร็ธแคว้นกาลิลี และทรงรับบัพติศมาจากยอห์นในแม่น้ำจอร์แดน |
11. มาระโก 6:14 กษัตริย์เฮโรดทรงทราบเรื่องของพระองค์ เพราะว่าพระนามของพระเยซูเป็นที่เลื่องลือ บางคนพูดว่า “ยอห์นผู้ให้บัพติศมาเป็นขึ้นมาจากตายแล้ว เพราะเหตุนี้เขาถึงทำการอัศจรรย์ได้” |
12. มาระโก 6:24 แล้วนางจึงออกไปและถามมารดาว่า “ลูกจะขอสิ่งใดดี?” มารดาตอบว่า “ขอศีรษะของยอห์นผู้ให้บัพติศมาเถิด” |
13. มาระโก 7:4 และเมื่อพวกเขามาจากตลาด ถ้าพวกเขาไม่ได้ชำระล้างก่อน พวกเขาก็ไม่รับประทานอาหาร และยังมีธรรมเนียมอื่นๆ อีกหลายอย่างที่พวกเขายึดถือ เช่นการล้างถ้วย เหยือก และภาชนะทองแดง และที่เอนกายรับประทานอาหาร) |
14. มาระโก 10:38* พระเยซูจึงตรัสกับพวกเขาว่า “พวกท่านไม่รู้ว่าพวกท่านกำลังขออะไร ถ้วยที่เราดื่มพวกท่านดื่มได้หรือ? และบัพติศมาที่เรารับ พวกท่านรับบัพติศมานี้ได้หรือ?” |
15. มาระโก 10:39* พวกเขาทูลตอบว่า “พวกข้าพระองค์ทำได้” พระเยซูจึงตรัสกับพวกเขาว่า “ถ้วยที่เราดื่มนั้นพวกท่านจะได้ดื่ม และบัพติศมาที่เรารับ เป็นบัพติศมาที่พวกท่านจะได้รับ” |
16. มาระโก 16:16 ใครเชื่อและรับบัพติศมาก็จะรอด แต่ใครไม่เชื่อจะต้องถูกลงโทษ |
17. ลูกา 3:7 ยอห์นกล่าวกับฝูงชนที่ออกมารับบัพติศมาจากเขาว่า “พวกชาติงูร้าย ใครเตือนพวกท่านให้หนีจากพระพิโรธที่จะมานั้น |
18. ลูกา 3:12 พวกคนเก็บภาษีต่างก็มาขอรับบัพติศมาด้วย และถามเขาว่า “อาจารย์ เราต้องทำอย่างไร?” |
19. ลูกา 3:16* ยอห์นตอบพวกเขาว่า “ข้าพเจ้าให้พวกท่านรับบัพติศมาด้วยน้ำ แต่จะมีพระองค์หนึ่งเสด็จมา ทรงยิ่งใหญ่กว่าข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าไม่คู่ควรแม้แต่จะแก้สายฉลองพระบาทของพระองค์ พระองค์จะทรงให้พวกท่านรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยไฟ |
20. ลูกา 3:21* เมื่อคนทั้งหลายรับบัพติศมาอยู่นั้น พระเยซูก็ทรงได้รับบัพติศมาด้วย ขณะที่พระองค์ทรงอธิษฐาน ท้องฟ้าก็แหวกออก |
21. ลูกา 7:29 ทุกคนรวมทั้งคนเก็บภาษีเมื่อได้ยินก็ยอมรับว่าพระเจ้าทรงยุติธรรม โดยที่พวกเขาได้รับบัพติศมาจากยอห์นแล้ว |
22. ลูกา 7:30 แต่พวกฟาริสีและพวกผู้เชี่ยวชาญบัญญัติไม่ยอมรับพระประสงค์ของพระเจ้าที่มีต่อพวกเขา โดยไม่ได้รับบัพติศมาจากยอห์น |
23. ลูกา 11:38 เมื่อฟาริสีคนนั้นเห็นว่าพระองค์ไม่ได้ทรงล้างชำระก่อนเสวยก็ประหลาดใจ |
24. ลูกา 12:50 เราจะต้องรับบัพติศมาอย่างหนึ่ง เราเป็นทุกข์มากจนกว่ามันจะสำเร็จ! |
25. ยอห์น 1:25 พวกเขาจึงถามยอห์นว่า “ถ้าท่านไม่ใช่พระคริสต์หรือเอลียาห์ หรือผู้เผยพระวจนะนั้น ทำไมท่านจึงให้บัพติศมา?” |
26. ยอห์น 1:26 ยอห์นตอบพวกเขาว่า “ข้าพเจ้าให้บัพติศมาด้วยน้ำ แต่มีคนหนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางพวกท่านที่ท่านไม่รู้จัก |
27. ยอห์น 1:28 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านเบธานีอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดน ที่ซึ่งยอห์นกำลังให้บัพติศมา |
28. ยอห์น 1:31 ข้าพเจ้าเองไม่รู้จักพระองค์ แต่เพื่อให้พระองค์เป็นที่ประจักษ์แก่อิสราเอล ข้าพเจ้าจึงให้บัพติศมาด้วยน้ำ” |
29. ยอห์น 1:33* ข้าพเจ้าเองไม่รู้จักพระองค์ แต่พระองค์ผู้ทรงใช้ข้าพเจ้ามาให้บัพติศมาด้วยน้ำ ได้ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘เมื่อเห็นพระวิญญาณเสด็จลงมาสถิตอยู่กับคนใด คนนั้นแหละจะเป็นคนให้บัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์’ |
30. ยอห์น 3:22 หลังจากที่พระเยซูผู้นี้เสด็จเข้าไปยังแถบชนบทในแคว้นยูเดียกับพวกสาวกของพระองค์ และพระองค์ประทับที่นั่นกับพวกเขา และทรงให้บัพติศมา |
31. ยอห์น 3:23* ยอห์นก็กำลังให้บัพติศมาอยู่ที่อายโนนใกล้หมู่บ้านสาลิม เพราะที่นั่นมีน้ำมาก และคนทั้งหลายก็พากันมารับบัพติศมา |
32. ยอห์น 3:26 พวกเขาจึงไปหายอห์นและกล่าวกับเขาว่า “รับบี ผู้ที่อยู่กับอาจารย์ที่ฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้น ผู้ที่อาจารย์เป็นพยานถึงนั้น ดูเถิด ท่านผู้นั้นกำลังให้บัพติศมาและทุกคนก็พากันไปหาท่าน” |
33. ยอห์น 4:1 เมื่อพระเยซูทรงทราบว่าพวกฟาริสีได้ยินข่าวว่าพระเยซูทรงมีสาวกและให้บัพติศมาสาวกมากกว่ายอห์น” |
34. ยอห์น 4:2 (แม้ว่าพระเยซูเองไม่ได้ทรงให้บัพติศมา แต่สาวกของพระองค์เป็นผู้ให้) |
35. ยอห์น 10:40 พระองค์เสด็จข้ามแม่น้ำจอร์แดน ไปยังสถานที่ที่เมื่อก่อนยอห์นได้ให้บัพติศมา แล้วพระองค์ประทับอยู่ที่นั่น |
36. กิจการ 1:5* ด้วยว่ายอห์นให้รับบัพติศมาด้วยน้ำ แต่อีกไม่กี่วันพวกท่านจะได้รับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์” |
37. กิจการ 2:38 เปโตรจึงกล่าวกับเขาทั้งหลายว่า “จงกลับใจใหม่และรับบัพติศมาในพระนามของพระเยซูคริสต์ให้หมดทุกคน เพื่อรับการยกโทษบาปของท่านทั้งหลาย แล้วพวกท่านจะได้รับของประทานคือพระวิญญาณบริสุทธิ์ |
38. กิจการ 2:41 คนทั้งหลายที่รับถ้อยคำของเปโตรก็รับบัพติศมา และในวันนั้นมีคนเข้าเป็นสาวกประมาณสามพันคน |
39. กิจการ 8:12 แต่เมื่อฟีลิปประกาศข่าวประเสริฐเรื่องแผ่นดินของพระเจ้าและพระนามของพระเยซูคริสต์แล้ว คนทั้งหลายก็เชื่อและรับบัพติศมาทั้งชายและหญิง |
40. กิจการ 8:13 แม้ซีโมนเองก็เชื่อด้วย และเมื่อรับบัพติศมาแล้วก็อยู่กับฟีลิปต่อไป และประหลาดใจในหมายสำคัญกับการอัศจรรย์ยิ่งใหญ่ต่างๆที่ได้เห็น |
41. กิจการ 8:16 เพราะว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ยังไม่ได้เสด็จลงมาสถิตกับผู้ใด พวกเขาเพียงแต่ได้รับบัพติศมาในพระนามของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น |
42. กิจการ 8:36 ขณะกำลังเดินทางไปตามถนน พวกเขาก็มาถึงที่ที่มีน้ำ และขันทีจึงพูดว่า “นี่แน่ะ ที่นี่มีน้ำ มีอะไรขัดข้องไม่ให้ข้าพเจ้ารับบัพติศมาเล่า?” |
43. กิจการ 8:38 แล้วท่านจึงสั่งให้หยุดรถ ทั้งสองก็ลงไปในน้ำทั้งฟีลิปกับขันที และฟีลิปก็บัพติศมาให้ท่าน |
44. กิจการ 9:18 ทันใดนั้นมีบางอย่างเหมือนเกล็ดหลุดจากตาของเซาโล แล้วท่านก็เห็นได้อีก ท่านจึงลุกขึ้นรับบัพติศมา |
45. กิจการ 10:47 “ใครจะห้ามคนเหล่านี้ที่ได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์เหมือนเรา จากการรับบัพติศมาด้วยน้ำ?” |
46. กิจการ 10:48 เปโตรจึงสั่งให้เขาทั้งหลายรับบัพติศมาในพระนามของพระเยซูคริสต์ แล้วพวกเขาจึงได้ขอให้เปโตรพักอยู่กับพวกเขาอีกสองสามวัน |
47. กิจการ 11:16* แล้วข้าพเจ้าก็ระลึกถึงคำตรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า ที่พระองค์ตรัสไว้ว่า ‘ยอห์นให้บัพติศมาด้วยน้ำ แต่พวกท่านจะรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์’ |
48. กิจการ 16:15 เมื่อหญิงคนนั้นกับครัวเรือนของนางได้รับบัพติศมาแล้ว นางจึงอ้อนวอนเราว่า “ถ้าท่านทั้งหลายเห็นว่าข้าพเจ้าเป็นคนซื่อสัตย์ต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็ขอเชิญเข้ามาพักอาศัยในบ้านของข้าพเจ้าเถิด” และนางก็ได้วิงวอนจนเราขัดไม่ได้ |
49. กิจการ 16:33 ในกลางคืนชั่วโมงเดียวกันนั้นเอง นายคุกก็พาเปาโลกับสิลาสไปล้างแผลที่ถูกเฆี่ยน และเขาก็รับบัพติศมาทันทีพร้อมกับทุกคนในครัวเรือนของเขา |
50. กิจการ 18:8 คริสปัสนายธรรมศาลากับทั้งครัวเรือนของท่านก็ได้มาเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า และชาวโครินธ์หลายคนเมื่อฟังเปาโลแล้วก็เชื่อและรับบัพติศมา |
51. กิจการ 19:3 เปาโลจึงถามพวกเขาว่า “ถ้าอย่างนั้นท่านทั้งหลายได้รับบัพติศมาอะไร?” พวกเขาตอบว่า “บัพติศมาของยอห์น” |
52. กิจการ 19:4 เปาโลจึงกล่าวว่า “ยอห์นให้รับบัพติศมาที่แสดงการกลับใจใหม่ และบอกคนทั้งปวงให้เชื่อในพระองค์ผู้จะเสด็จมาภายหลังคือพระเยซู” |
53 กิจการ 19:5 เมื่อได้ยินอย่างนั้น พวกเขาก็รับบัพติศมาในพระนามของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า |
54. กิจการ 22:16 และบัดนี้ท่านจะชักช้าอยู่ทำไม? จงลุกขึ้นรับบัพติศมา รับการชำระบาปของท่าน โดยร้องทูลออกพระนามของพระองค์’ |
55. โรม 6:3* ท่านทั้งหลายไม่รู้หรอกหรือว่า เราทุกคนที่ได้รับบัพติศมาเข้าในพระเยซูคริสต์ ก็ได้รับบัพติศมาเข้าในการตายของพระองค์? |
56. 1 โครินธ์ 1:13 พระคริสต์ถูกแบ่งแยกแล้วหรือ? เปาโลถูกตรึงเพื่อท่านทั้งหลายหรือ? ท่านได้รับบัพติศมาในนามของเปาโลหรือ? |
57. 1 โครินธ์ 1:14 ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระเจ้าที่ข้าพเจ้าไม่ได้ให้บัพติศมาแก่ผู้หนึ่งผู้ใดในพวกท่าน เว้นแต่คริสปัสและกายอัส |
58. 1 โครินธ์ 1:15 ดังนั้น จึงไม่มีผู้ใดจะกล่าวได้ว่า ท่านได้รับบัพติศมาในนามของข้าพเจ้า |
59. 1 โครินธ์ 1:16* (ข้าพเจ้าได้ให้บัพติศมาแก่ครอบครัวของสเทฟานัสด้วย นอกจากคนเหล่านี้แล้วข้าพเจ้าไม่ทราบว่าข้าพเจ้าได้ให้บัพติศมาแก่ผู้ใดอีกบ้าง) |
60. 1 โครินธ์ 1:17 เพราะว่าพระคริสต์ไม่ได้ทรงส่งข้าพเจ้าไปเพื่อให้บัพติศมา แต่เพื่อให้ประกาศข่าวประเสริฐ และไม่ใช่ด้วยการพูดอย่างชาญฉลาดเพื่อว่าเรื่องกางเขนของพระคริสต์จะไม่หมดฤทธิ์อำนาจ |
61. 1 โครินธ์ 10:2 พวกเขาล้วนได้รับบัพติศมากับโมเสสในเมฆและในทะเล |
62. 1 โครินธ์ 12:13 เพราะไม่ว่าจะเป็นยิวหรือกรีก ทาสหรือไท เราทั้งหมดก็รับบัพติศมาโดยพระวิญญาณองค์เดียวเข้าเป็นกายเดียวกัน และเราทุกคนได้ดื่มจากพระวิญญาณองค์เดียวกัน |
63. 1 โครินธ์ 15:29* มิฉะนั้น พวกที่ให้รับบัพติศมาเพื่อคนตายนั้นจะทำอย่างไร? ถ้าคนตายไม่ถูกทำให้เป็นขึ้นมาเลย แล้วทำไมจึงมีการให้รับบัพติศมาเพื่อคนตาย? |
64. กาลาเทีย 3:27 เพราะว่าพวกท่านทุกคนที่ได้รับบัพติศมาเข้าในพระคริสต์แล้ว ก็ได้สวมพระคริสต์ด้วย |
[1] John the Baptizer
[2] Nestle-Aland Novum Testamentum Graece (NA28)
[3] The New Analytical Greek Lexicon by W.J. Perschbacher